วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2555

งานช้างสุรินทร์ 2555

Surin Elephant

 

 



งานช้างสุรินทร์ปีนี้ 2555 เชิญชวนทุกคนทุกท่านร่วมงานช้าง ดูการแสดงช้างและร่วมงานกาชาด พวกเราชาวสุรินทร์ยินดีต้อนรับ










ยินดีต้อนรับทุกท่าน


ความเป็นมาของงานแสดงช้างสุรินทร์

บริเวณตอนเหนือของจังหวัดสุรินทร์ในแถบตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม และตำบลนาหนองไผ่ อำเภอชุมพลบุรี เป็นถิ่นที่อยู่ของชนพื้นเมืองชาว “กวย” หรือ “ส่วย” นิยมเลี้ยวช้างมาแต่โบราณกาล เพื่อนำไปใช้ในงานและพิธีต่าง ๆ โดยเฉพาะที่บ้านตากลาง ตำบลกระโพ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวจังหวัดสุรินทร์ประมาณ ๕๘ กิโลเมตร ชาวบ้านนิยมเลี้ยงช้างไว้เป็นจำนวนมาก จนมีผู้รู้จักบ้านตากลางในนามของหมู่บ้านช้าง หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ใกล้กับลำน้ำมูลและลำน้ำชี เดิมพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่า มีความอุดมสมบูรณ์มาก เมื่อ วันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๐๓ นายวินัย สุวรรณกาศ นายอำเภอท่าตูม ได้จัดงานแสดงช้างขึ้นที่บริเวณสนามบินเก่า อำเภอท่าตูม (ที่ตั้งโรงเรียนท่าตูมประชาเสริมวิทย์ในปัจจุบัน) เพื่อเฉลิมฉลองที่ว่าการอำเภอหลังใหม่ ในงานมีการแสดงขบวนแห่ช้าง การแข่งขันช้างวิ่งเร็ว การคล้องช้าง ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก มีการแพร่ภาพประชาสัมพันธ์ทั้งทางหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ ทำให้ชาวไทยและชาวต่างประเทศเกิดความสนใจเป็นอย่างมาก ในปีต่อมา อสท.(ททท.) จึงได้เข้ามาให้การสนับสนุน โดยร่วมกำหนดรูปแบบของการแสดง และนำนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศมาชมการแสดง ใน ปี พ.ศ. ๒๕๐๕ คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้การจัดงานช้างเป็นงานประจำปีของชาติ และให้ส่วนราชการต่าง ๆ สนับสนุน นายคำรณ สังขกร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ในสมัยนั้น พิจารณาเห็นว่า การจัดงานที่อำเภอท่าตูมไม่สะดวกในการเดินทางของนักท่องเที่ยวจึงได้ย้าย สถานที่จัดงานมาจัดงานที่สนามกีฬาจังหวัดตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา จนถึงปัจจุบันเป็นปีที่ ๔๘ 

 

 กำหนดการจัดงานช้างและงานกาชาด จังหวัดสุรินทร์ ประจำปี ๒๕๕๕ 

 

วันที่ 14 - 25 พฤศจิกายน 2555 ณ สนามกีฬาศรีณรงค์และสนามแสดงช้าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 

กิจกรรม  : 

 

 

16 พฤศจิกายน 2555            : พิธีต้อนรับและเลี้ยงอาหารช้างกว่า 250 เชือก

                                               : ชมการแสดง แสง สี เสียง ปราสาทพันปี  ศรีขรภูมิ

 

 

17-18  พฤศจิกายน 2555     : การแสดงของช้างที่ยิ่งใหญ่

 



 

 

 

นอก จากกิจกรรมงานช้างที่จัดขึ้น ยังมีสินค้าต่างๆมากมายทั้งของกินของใช้และเกมส์ต่างๆให้เลือกชมและเครื่อง เล่นต่างๆให้เลือกเล่นมากมายอาทิ เช่น

 

 

 

 

 





จับปลา

 

 

 

 

 

 

 



 

 




 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 รูปนี่เป็นเพียงงานเล็กๆน้อยๆถ้าอยากรู้ว่ามีเครื่องเล่นอะไรต้องมาสัมผัสด้วยตนเอง

  รู้ประวัติงานช้างแล้ว มารู้จักกับจังหวัดสุรินทร์กันเถอะ

 ประวัติจังหวัดสุรินทร์

จังหวัดสุรินทร์ได้รับการสันนิษฐานจาก นักประวัติศาสตร์ว่า พื้นที่อันเป็นที่ตั้งเมืองสุรินทร์มีชุมชนอาศัยอยู่เมื่อประมาณ 2,000 ปีล่วงมาแล้ว พบหลักฐานการอยู่ของมนุษย์ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์  ยุคโลหะตอนปลาย ซึ่งมีการใช้เครื่องมือเหล็กแล้ว ซึ่งยังปรากฏให้เห็นชุมชนโบราณกว่า 59 แห่ง จากสภาพภูมิศาสตร์ที่มีอาณาเขตต่อเนื่องกับพื้นที่ที่เคยเป็นอาณาจักรขอม โบราณ ทำให้ชุมชนในจังหวัดสุรินทร์ได้รับวัฒนธรรมขอมมาโดยตลอดตั้งแต่ในช่วงพุทธ ศตวรรษที่ 12 เป็นต้นมา เมื่อขอมเสื่อมอำนาจลง ไม่ปรากฏหลักฐานเด่นชัดที่แสดงถึงการอยู่อาศัยของชุมชนในสมัยต่อมา จนกระทั่งในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย พ.ศ. 2260 จึงปรากฏร่องรอยขึ้นอีกครั้งหนึ่งในพงศาวดารอีสาน ชาวพื้นเมืองกลุ่มหนึ่งที่เรียกตัวเองว่า ส่วยหรือกูย ซึ่งอาศัยอยู่แถบเมืองอัตปือแสนแป แคว้นจำปาศักดิ์ ซึ่งขณะนั้นเป็นดินแดนของไทย และเป็นผู้ที่มีความสามารถในการจับช้างป่ามาเลี้ยงไว้ใช้งาน พากันอพยพข้ามลำน้ำโขงมาสู่ฝั่งขวา โดยได้แยกย้ายกันไปตั้งชุมชนที่เมืองลีง (อ.จอมพระ) บ้านโคกลำดวน (อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ) บ้านอัจจะปะนึ่ง (อ.สังขะ) และบ้านกุดปะไท (อ.ศีขรภูมิ) ในปี พ.ศ. 2303 หัวหน้าชาวกูยที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ได้ช่วยขุนนาง   จากราชสำนักคล้องช้างเผือกแตกโรง มาจากกรุงศรีอยุธยากลับไปได้ ต่อมาได้ส่งส่วยของป่าและรับราชการกับราชสำนัก จนได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์และยกบ้านที่ปกครองขึ้นเป็นเมืองต่อมาในปี พ.ศ. 2306 หลวงสุรินทร์ภักดีหรือเชียงปุม หัวหน้าหมู่บ้านเมืองที
ได้ขอให้เจ้าเมือง พิมายกราบบังคมทูลขอพระกรุณาโปรดเกล้าฯ จากพระเจ้าอยู่หัว พระที่นั่งสุริยามรินทร์ย้ายหมู่บ้านจากบ้านเมืองที มาตั้งอยู่ที่บริเวณบ้านคูประทาย ซึ่งเป็นที่ตั้งเมืองสุรินทร์ในปัจจุบัน เนื่องจากเห็นว่าเป็นบริเวณที่มีชัยภูมิเหมาะสม มีกำแพงค่ายคูล้อมรอบ 2 ชั้น มีน้ำอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การประกอบอาชีพและอยู่อาศัยต่อมาหลวงสุรินทร์ภักดี ได้กระทำความดีความชอบเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าอยู่หัวพระที่นั่งสุริยามริ นทร์ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ยกบ้านคูประทายเป็นเมืองประทายสมันต์และเลื่อน บรรดาศักดิ์หลวงสุรินทร์ภักดีเป็นพระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวางให้ เป็นเจ้าเมืองปกครอง ในปี พ.ศ. 2329 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อเมืองประทายสมันต์เป็นเมืองสุรินทร์ ตามสร้อยบรรดาศักดิ์เจ้าเมือง เมืองสุรินทร์มีเจ้าเมืองปกครองสืบเชื้อสายกันมารวม 11 คน จนถึงปี พ.ศ.2451 ได้มีการปรับปรุงระบบบริหารราชการแผ่นดิน  เป็นแบบเทศาภิบาลส่วนกลางจึงได้แต่งตั้งพระกรุงศรีบุรีรักษ์ (สุม สุมานนท์) มาดำรงตำแหน่งเป็นข้าหลวงประจำจังหวัดหรือผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นคนแรก ส่วนผู้ว่าราชการจังหวัดคนปัจจุบัน   คือ นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร
 ซึ่งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด คนที่
52







ตราประจำจังหวัดสุรินทร์
รูปพระอินทร์ทรงช้าง
ชื่อของจังหวัด เป็นคำสนธิของคำสองคำ คือ สุระ กับ อินทร
หมายถึง   พระอินทร์ผู้เก่งกล้าสามารถ
ตราจังหวัด กำหนดสัญญลักษณ์ประกอบด้วย พระอินทร์ ประทับขัดสมาธิบนหลังช้าง หัตถ์ขวาทรงตรี หัตถ์ซ้ายทรงพระแสงขอช้าง มีภาพปราสาทสลักปรักหักพังเป็นฉากเบื้องหลัง



 

ธงประจำจังหวัดสุรินทร์

 

  

ดอกไม้ประจำจังหวัด 

"ดอกกันเกรา"


ชื่อวิทยาศาสตร์ Fagraea fragrans Roxb.

 การกำหนดให้ไม้ชนิดใดเป็นไม้ประจำจังหวัด เป็นเรื่องของจังหวัดนั้นๆ จะเป็นผู้พิจารณา  ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้มีหนังสือแจ้งให้ทราบว่า การกำหนดชนิดต้นไม้เป็นสัญลักษณ์ประจำหน่วยงานสังกัดกระทรวงมหาดไทย ได้มีการกำหนดเฉพาะในระดับจังหวัด สำหรับจังหวัดสุรินทร์ กระทรวงมหาดไทยได้กำหนดให้ ต้นกันเกรา เป็นต้นไม้ประจำจังหวัด ดอกกันเกรา เป็นดอกไม้ประจำจังหวัด 

          ซึ่งในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ มีต้นกันเกรา ขึ้นกระจายอยู่โดยทั่วไป ดอกกันเกราก็จะบานส่งกลิ่นหอมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประชาชนชาวสุรินทร์ จะนำดอกกันเกรามาร้อยเป็นพวงมาลัยคล้องคอ

 

คำขวัญประจำจังหวัด สุรินทร์

สุรินทร์ถิ่นช้างใหญ่    ผ้าใหมงามประคำสวย  ร่ำรวยปราสาท   

ผักกาดหวาน ข้าวสารหอม  งามพร้อมวัฒนธรรม







































ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น